เล่าขานตำนานซ่อนเร้น “ถ้ำนาคา” ประตูมิติสู่ภูมิซ้อน

เรื่องลึกเรื่องลับ ฮ็อทฮิตสุดปังของแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่โดนใจสายมูอย่างจังนาทีนี้ เห็นทีจะหนีไม่พ้น “ถ้ำนาคา” ในเขตอุทยานแห่งชาติภูลังกา จ.บึงกาฬ สิ่งมหัศจรรย์ธรรมชาติที่มีแรงดึงดูดสุดเหนียวแน่น คือก้อนหินรูปร่างประหลาด ขนาดใหญ่ ลำตัวมีเกล็ดคล้ายงู หรือพญานาค บอกได้คำเดียวงานนี้ แรงใจเพียวๆ อาจเสียวได้ เพราะมีบททดสอบความอึดหลายด่าน กายฟิตแน่น ใจฮึดสู้ ถึงจะพิชิตจุดหมายได้ตามเป้า งานนี้ ยาดม ยาหม่องสาระพัดยี่ห้อต้องมาจ้า เมื่อกายใจพร้อม ทีนี้ก็ต้องหาผู้ช่วยมาเสริมทัพผ่อนแรง ที่ขาดไม่ได้เลยคือรองเท้าผ้าใบ เพราะทางไกลแถมลาดชัน เดินดุ่มๆ เกิดไหลลื่นขึ้นมาเงิบแน่นอน ถ้าใครกลัวผิวคล้ำดำด่างก็อย่าลืมพกแว่นกันแดดและหมวกไปด้วย ซึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการไปที่นี่ บอกได้คำเดียวว่า เหนื่อยแค่ไหนก็ต้องไปให้ถึง

ถ้ำนาคา

 

ถ้ำนาคา

นอกจากหินแปลกแล้ว ถ้ำนาคายังมีเสียงลือเรื่องเล่าอ้างกันมาว่า ครั้งหนึ่งที่แห่งนี้เคยเป็นเมืองรัตนานคร ปกครองโดยพระเจ้าอือลือและนางแก้วกัลยา มีธิดาคนงามนามว่านางเขียวคำ ต่อมาแต่งงานกับพระเจ้าสามพันตา มีโอรสรูปงามชื่อเจ้าชายฟ้าฮุ่ง (รุ่ง) ภายหลังมาพบรัก มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับนางนาครินทรานี ธิดาแห่งเมืองพญานาค ซึ่งจำแลงแปลงกายมาเที่ยวเมืองมนุษย์ 

  เมื่อนางนาคป่วย เพราะตรอมใจที่ไม่สามารถให้กำเนิดทายาท จึงกลายร่างคืนสู่อัตลักษณ์พยานาค และถูกขับไล่ออกจากวัง เมื่อพญานาคราชผู้ครองเมืองบาดาลทราบเรื่องก็โกรธมาก จึงยกทัพมาถล่ม แล้วสาปพระอือลือให้กลายเป็นหิน เฝ้าแดนดินภูลังกาจนกว่าเกิดเมืองใหม่ขึ้นในบริเวณถ้ำนาคานี้

  อีกตำนานกล่าวว่า เดิมปู่อือลือเป็นเทพในแดนสวรรค์ แต่ถูกสาปให้มาเกิดเป็นพญานาค ปกครองเมืองบาดาลที่บึงโขงหลง ต่อมานาคบริวารได้ไปลุ่มหลงพัวพันกับหญิงชาวมนุษย์ ซึ่งผิดจารีตธรรมเนียม ปู่อือลือโกรธมาก จึงสาปให้ทั้งสองกลายเป็นหิน

ที่แห่งนี้ยังมีเมืองลับแลของชาวบังบด ภพภูมิซ้อนของผู้มีกายทิพย์ ล่องหนกำบังตัวได้ ชอบรักษาศีล ใช้ชีวิตเรียบง่ายแบบชาวบ้านชนบท

  ไปถ้ำนาคาทั้งทีก็อย่าได้เสียเที่ยว พนมมือสิบนิ้วขอพรปู่ให้โชคดีมีลาภลอย จะบนบานอะไรก็ทำไป แต่จำไว้ให้มั่นว่า ในแดนทิพย์นั้น ไม่ว่าจะเมืองบังบด หรือเมืองบาดาล สิ่งที่เหมือนกันคือ พวกเขาชอบคนดี ประพฤติธรรม และมีสัจจะ อันนี้สำคัญมาก ฉะนั้น ใครที่อยากมีประสบการณ์ลี้ลับ หรืออยากสัมผัสความอัศจรรย์ใจด้วยตัวเอง ก็จงเร่งหมั่นฝึกตน ให้อยู่ในกรอบความดี และสิ่งดีๆจะเป็นเกราะคุ้มครองเราเอง